รีวิวหนัง "The Boogeyman เดอะ บูกี้แมน" ผีหลอนไม่มาก แค่อยากซื้อไฟไปติดให้เพิ่ม

นี่อาจจะเป็นหนึ่งในตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา ที่เราอาจจะเคยได้ยินได้สัมผัสกับมาบ้าง เพราะที่มันดังได้ก็มาจากเจ้าพ่อนิยายสยอง “สตีเวน คิง” นำมาร้อยเรียงสร้างเป็นเรื่องราวให้ชวนหลอน กลายออกมาเป็น “The Boogeyman” ที่ฉบับนี้อิงมาจากงานเขียนสุดคลาสสิกโดยเฉพาะ ที่จะมาเบิกทางตำนานผีตู้เสื้อผ้าที่ฝรั่งกลัวหนักหนา แต่ความหลอนเฮี้ยน..จะทำได้ถึงขั้นนั้นหรือไม่? นี่คือเรื่องราวของ ซาดี้ ฮาร์เปอร์ นักเรียนหญิงวัยมัธยมปลายและ ซอว์เยอร์ น้องสาวของเธอ ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียแม่อย่างกะทันหัน และไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอจาก วิล พ่อของพวกเขา ที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาบำบัด เพราะตัวเขาเองก็ยังคงรับมือกับความเจ็บปวดของตัวเองอยู่ วันหนึ่งมีผู้ป่วยสุดเวทนาโผล่มาที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วผู้ป่วยคนนั้นก็ได้ทิ้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดสะพรึงที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาตกเป็นเหยื่อของเรื่องลี้ลับ อาจจะบอกได้หนังเรื่องนี้ก็เป็นตามสูตรสำเร็จของจำพวกหนังผีสุดสยอง ที่ใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมาชิมลางถ่ายทอดความหลอนแบบเดิม ๆ ที่เราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว “ร็อบ ซาเวจ” ที่่ผ่านงานกำกับซีรีส์และหนังสยองทุนต่ำมาหลายเรื่อง เขารู้วิธีรับมือกับหนังเรื่องนี้ดี ด้วยการสร้างบรรยากาศชวนหลอนและสะพรึงกลัว อีกทั้งยังสามารถรักษาระดับงบประมาณของหนังเอาไว้ได้อย่างน่าพอใจทีมผู้บริหารเลยแหละ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือไม่ แต่ตลอดระยะเวลาที่นั่งดู The Boogeyman เรื่องนี้ แอบรู้สึกและนึกถึงรสสัมผัสแบบที่เคยลิ้มลองมาแล้วในหนังดังแจ้งเกิดของผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก อย่าง “Lights Out” เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่มาในโทนคล้าย ๆ กันอ่านต่อ

รีวิวหนัง "อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION"

เปิดประตูสู่ความสยองขวัญสั่นประสาทไปกับภาพยนตร์เรื่อง “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION (อ๊กซู : สถานีผีดุ เดอะ โกสท สเตชั่น)” ร้อยเรียงเรื่องราวจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง ก่อนนำมาสร้างเป็น WEBTOON โดยในภาพยนตร์ยังได้คว้าตัวผู้เขียนบทหนังสยองขวัญฝีมือดี ฮิโรชิ ทาคาฮาชิ มาเป็นผู้รังสรรค์เรื่องราว โดยมี จองยงกิ นั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์ เป็นอีกหนึ่งเนื้อหาที่จะพาคุณไขปริศนาที่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว และยังสะท้อนมุมมองของอาชีพนักข่าวเข้ามาได้ดีพอสมควร ชวนขนลุกขนพองตลอดทั้งการรับชม เรื่องย่อ เรื่อง “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION” เป็นเรื่องราวของ นายอง นักข่าวสาวผู้ต้องการทำข่าวให้ได้ผลตอบรับที่ดีตามเป้าหมายของหัวหน้า ทว่าเขากลับทำผิดพลาดจึงต้องหาข่าวใหม่มาทดแทน เขาได้ขอร้อง ชเวอูวอน เพื่อนของเขาที่เป็นพนักงานบริการสาธารณะที่สถานีอ๊กซูที่เพิ่งพบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เธอจึงเข้ามาคลุกคลีกับเหตุการณ์ลึกลับบางอย่าง และเปิดโปงความจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด เริ่มต้นมาก็สามารถเรียกความน่าสะพรึงกลัวได้เป็นอย่างดี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานีอ๊กซู มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายก่อนจะย้อนเนื้อหากลับไปเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นเหตุการณ์ของทั้งหมด โดยมีนักข่าวสาว นายอง เป็นผู้ดำเนินเนื้อหาหลัก เมื่อเธอนั้นต้องแก้ไขข่าวที่ทำผิดพลาด และเพื่อยอดการเข้าชมข่าวในการหารายได้เพื่อใช้จ่ายในการฟ้องร้อง ทำให้เธอได้เข้าสู่เรื่องพิศวง เมื่อเพื่อนของเธอทั้ง 2 คนที่สถานีอ๊กซูอ่านต่อ

รีวิวหนังใหม่รุ่นใหญ่จัดเต็ม 80 for Brady

80 for Brady เป็นหนังที่ได้แรงบันดาลใจสร้างมาจากเรื่องจริงของ 4 สาวรุ่นใหญ่ วัย 70 พลัส ที่พวกเธอเป็นเพื่อนรักและรักษามิตรภาพกันมาอย่างยาวนาน กับปัจจุบันที่พวกเธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแฟนทีมอเมริกันฟุตบอลระดับชาติ อย่าง New England Patriots ที่มีควอร์เตอร์แบ็กระดับ อย่าง ทอม เบรดี้ อยู่ในทีมนี้นั่นเอง และชีวิตของพวกเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อได้เห็นลีลาการเล่นในสนามของเขา จนกลายเป็นการขับเคลื่อนชีวิตสาวใหญ่ทั้งแก๊งได้อย่างไม่น่าเชื่อ นี่ผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของโปรดิวเซอร์หนังมือฉมัง “ไคล์ มาร์วิน” ที่เราอาจจะคุ้นเคยกับหนังที่เขาอำนวยการสร้าง อย่าง The Climb เมื่อไม่กี่ปีก่อน นี่จึงถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของเขามาก ๆ แม้ว่าจะยังไม่ใช่งานสร้างที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลย เพราะโชคดีมาก ๆ ที่หนังยังมีองค์ประกอบอื่นที่พยายามประคับประคองทั้งเรื่องไปได้ตลอดรอดฝั่งได้เป็นอย่างดี ไม่ได้หวังพึ่งแค่งานกำกับเท่านั้น รีวิว แก๊งอาวุโส..ยังโอเคไปบุกสนามโล้ด! หนังได้ 2 นักเขียนฝีมือดี “ซาราห์ ฮาสกินส์” กับ “เอมิลี่ ฮาลเพิร์น” ที่เคยได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามอ่านต่อ

รีวิวหนัง "Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด"

“Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด” เฉือนเนิบ ๆ ทำเสียวสันหลังวาบได้อยู่นะ ใครที่ชื่นชอบหนังลึกลับสยองขวัญแบบเสียวสันหลังวาย…ต้องไม่พลาด “Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด” เป็นว่าด้วยเรื่องราวของ จูเลีย หญิงสาวอเมริกันที่ตัดสินใจย้ายตามแฟนหนุ่มมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย แต่เธอเริ่มรู้สึกแปลก ๆ และสงสัยว่าชายแปลกหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอะพาร์ตเมนต์ของเธอนั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับการเป็นฆาตกรตัดหัวหญิงสาวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และนั่นได้นำพาเธอเดินไปสู่ห้วงแห่งอันตราย และนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับหญิงดาวรุ่งที่น่าจับตามอง “โคลอี โอคูโน่” ที่เธอเคยแจ้งเกิดมาจากหนังสยองขวัญ “V/H/S/94” ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมผู้กำกับ นี่จึงกลายเป็นผลงานกำกับหนังยาวเรื่องราวอย่างเต็มตัวของเธอ และเธอก็ได้ทำการใส่ของและใส่สิ่งที่เธออยากเล่าได้อย่างเปี่ยมล้น บนพื้นฐานของหนังที่ยังดำเนินไปด้วยสูตรสำเร็จทั่วไป ที่อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก โคลอี โอคูโน่ ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้กับนักเขียนมือใหม่ “แซ็ค ฟอร์ด” ถือว่าพวกเขาค่อย ๆ บรรเลงเพลงสยองในหนังเรื่องนี้ด้วยจังหวะที่ค่อยเป็นค่อยไป คือถ้าหากว่าคุณไม่ค่อยนิยมดูหนังที่เล่าไปแบบเนิบ ๆ ไม่เร่งรีบอะไรเท่าไหร่นัก นี่อาจจะยังไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคุณ แต่บนความเนิบช้าในการเล่าของเรื่องนี้นั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์และเป็นจังหวะที่ถูกต้องในการหยิบนำมาใช้ เพราะมันช่วยบิวท์อารมณ์และโทนของหนังได้เป็นอย่างดีเลย ในแง่ความสดใหม่ Watcher เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยมีมากนัก เพราะเชื่อว่าเปิดเรื่องมาผู้ชมก็น่าจะเดาทางออกได้แล้วว่าใครเป็นใคร เพียงแต่ว่าระหว่างทางในการเล่าเรื่องของหนัง ที่ใช้ตัวละครหญิงเป็นตัวนำทางตลอดทั้งเรื่อง โดยสร้างมิติให้กับตัวละครนี้ออกมาได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาต่างบ้านต่างเมือง หรือเสียงที่เบาของเธอที่ไม่อาจจะเปล่งให้ใครสนใจรับรู้ได้ถึงภัยที่กำลังจะมา Watcherอ่านต่อ

รีวิวหนัง "Living" การแสดงบาดลึก กับจารึกที่ว่า..เราต่างเกิดมาเพื่อรอวันสุดท้าย

“Living” การแสดงบาดลึก กับจารึกที่ว่า..เราต่างเกิดมาเพื่อรอวันสุดท้าย และนี่คือหนังที่สะดุดตาสะดุดใจเราไม่น้อย เพราะเป็นหนังม้ามืดที่แทรกเข้ามาติดโผเข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ปีล่าสุด นี่ก็คือ “Living” หนังสัญชาติอังกฤษที่เป็นการดัดแปลงสร้างมาจากต้นฉบับหนังญี่ปุ่นสุดอมตะ ที่อาจะไม่ใช่หนังเชิงพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง แต่เมื่อหยิบเอาวิธีการเล่าเรื่องแบบดราม่าใส่ฟีลแบบจริตญี่ปุ่นมาอยู่ในหนังโลกตะวันตกแล้ว กลิ่นอายมันก็ละมุนไปได้อีกแบบ Living เป็นเรื่องราวของ รอดนีย์ วิลเลียมส์ ข้าราชการระดับสูงประจำศาลากลางกรุงลอนดอนในช่วงยุคปี 1950s ที่กำลังเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยวในชีวิต แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่กับลูก ๆ อยู่ก็ตาม แต่เขากลับต้องเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนที่เศร้าโศกอีกหน เมื่อผลวินิจฉัยจากแพทย์ระบุว่าเขาเป็นโรคร้ายและคงเหลือเวลาอยู่เพียงไม่นาน ทำให้เขาเริ่มฉุกคิดบางอย่างที่จะทำเพื่อเป็นการสั่งเสียคนรอบข้างให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยเฉพาะการเสาะหาและตอบสนองหาผู้สืบทอดสิ่งที่เขาทำทิ้งเอาไว้ให้กับคนรุ่นต่อไป นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้ “โอลิเวอร์ เฮอร์มานัส” ที่เคยแจ้งเกิดและได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้มหลามจากงานชิ้นก่อนในหนังสงครามโรแมนซ์เนื้อหา LGBTQ+ อย่าง Moffie และเขาก็หยิบเอาประสบการณ์การทำงานมาใส่เป็นลูกเล่นในหนังเรื่องนี้ได้อย่างลงล็อกลงจังหวะ แม้ว่าในแง่งานสร้างของหนังเรื่องนี้จะยังไม่ได้โดดเด่นเป็นที่สุด แต่ต้องยอมรับว่าโปรดักชั่นดีไซน์และการออกแบบมุมภาพ รวมทั้งแสงสีต่าง ๆ ทำออกมาได้ละเมียดละไมตามแบบฉบับของโอลิเวอร์ หนังเรื่องนี้ได้นักเขียนนิยายชื่อดัง อย่าง “คาซูโอะ อิชิกูโระ” (จากนิยาย Never Let Me Go) มาช่วยดัดแปลงบทหนังให้ โดยคัดสำเนามาจากต้นฉบับที่เป็นหนังญี่ปุ่นคลาสสิก Ikiru เวอร์ชั่นปีอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ "Emily the Criminal"

รีวิวหนัง “Emily the Criminal” เพราะว่าโอกาสให้แก้ตัวของเธอ..เป็นสีเทาหม่น และนี่คือหนังอาชญากรรมที่ออกจะเป็นหนังนอกกระแสสักหน่อย แต่จัดได้ว่ามีความจัดจ้านในลีลาและท่วงท่าในการนำเสนอจากที่ได้ยินเสียงชื่นชมมาจากนักวิจารณ์หลายสถาบัน นับตั้งแต่หนังเปิดตัวครั้งแรกที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ ปี 2022 นี่คือ “Emily the Criminal” มาพร้อมกับประเด็นดราม่ากับประเด็นทางสังคมที่เหมือนจะหนักหน่วง แต่กลับกระแทกกระทั้นได้แยบยลกินใจตลอดชั๋วโมงเศษ ๆ Emily the Criminal เล่าเรื่องราวของ เอมิลี่ ที่ยังต้องแบกรับหนี้ กยศ. ที่ไม่จบไม่สิ้น อีกทั้งกำลังเหนื่อยหน่ายกับการออกสัมภาษณ์งานใหม่แต่ไม่ได้ เพราะมีคดีอาชญากรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดตัวเธอมาจากในอดีต กระทั่งเธอถูกนำพาเข้าสู่วังวนของโลกนักช้อปกำมะลอ ที่ใช้บัตรเครดิตปลอมในการอำพรางซื้อของสร้างรายได้ โดยที่มี ยูเซฟ เป็นผู้ที่ฝึกสอนและผลักดันสร้างงานนี้ให้กับเธอ แต่ไม่นานนัก เธอกลับพบว่าตัวเองยิ่งถลำเข้าสู่วงจรอาชญากรรมแห่งนี้ลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนคิดที่จะปลีกตัวออกมาทำงานลักษณะนี้ด้วยตัวเอง เพื่อรับทรัพย์และกำไรแบบเต็ม ๆ โดยที่ความสัมพันธ์กับยูเซฟยิ่งแนบแน่นมากขึ้นทุก ๆ วัน ทำให้คิดวางแผนที่จะร่วมมือกันสร้างธุรกิจนี้ด้วยกัน เพื่อก้าวขึ้นไปอีกระดับขั้นในโลกของธุรกิจเทาหม่นใจกลางนครลอสแองเจลิสแห่งนี้ ที่มันกำลังนำทางเธอไปสู่เส้นทางอันตรายเกินจะควบคุม นี่คือผลงานที่น่าจะเป็นงานแจ้งเกิดให้กับผู้กำกับหนุ่ม “จอห์น แพตตัน ฟอร์ด” ที่เรื่องนี้เขารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเองอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ "อาตมาฟ้าผ่า" 2023

รีวิวหนัง “อาตมาฟ้าผ่า” ความตลกอาจไม่หวือหวา แต่ละสายตาไม่ได้! ความบันเทิงช่วงเดือนเมษายน และวันหยุดสงกรานต์ 2023 นี้ กำลังรอคอยแฟน ๆ ทุกคนมารับชม กับภาพยนตร์ตลกไทย “อาตมาฟ้าผ่า” จากการจับมือร่วมกันของสามผู้สร้างยักษ์ใหญ่ของวงการบันเทิงไทย เอ็ม พิคเจอร์ส, บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด หนังใหม่ 2023 “อาตมาฟ้าผ่า” จะมาสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี มีทั้งมุกตลก และข้อคิดในการใช้ชีวิตเติมแต่งเข้ามาอย่างกลมกล่อม ห้อมล้อมไปด้วยความสนุกจากเหล่านักแสดงที่คนทัพมาอย่างคับคั่ง อาตมาฟ้าผ่า เป็นเรื่องราวของ พระจืด (โอ๊ต ปราโมทย์) พระที่มีชะตาชีวิตแปลกประหลาด เขาต้องมาวิ่งหนีฟ้าผ่าเพราะดันไปผูกกรรมร่วมกับหมอผีที่ชื่อ ปักเป้า (ปิอป ปองกูล) ไว้ในชาติก่อน หากหมอปักเป้าทำบาปทำกรรมอะไรไว้ ผลกรรมทั้งหมดก็จะเกิดขึ้นกับพระจืด แถมหมอปักเป้าดันไปสาบานให้ฟ้าผ่า เพื่อเอาใจสาวที่ตัวเองจีบ พระจืดเลยโดนลูกหลงถูกฟ้าผ่าไปด้วย จึงเกิดเป็นเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายของพวกเขาที่ต้องข้ามผ่านปัญหานี้ไปด้วยกันอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ "Soulmate เธอ ฉัน รักเขา"

รีวิวหนัง “Soulmate เธอ ฉัน รักเขา” ปล่อยให้ต่อมน้ำตา..ทำงานไปกับมิตรภาพ ถึงคิวของหนังเกาหลีที่เรียกความสนใจได้ดีตั้งแต่ประกาศสร้าง จนกระทั่งปล่อยโปสเตอร์และทีเซอร์ตัวอย่างออกมาที่ดึงดูดใจได้เป็นอย่างดี นี่คือ “Soulmate เธอ ฉัน รักเขา” หนังที่เป็นการรีเมคสร้างมาจากหนังจีนเรื่องดังที่ยังครองใจหลาย ๆ คน แต่มาในเวอร์ชั่นเกาหลีสร้างครั้งนี้ จะมีผลลัพธ์ออกมาได้ชวนประทับใจได้เทียบเท่ากับต้นฉบับหรือไม่ หรือว่าจะดีงามกว่า..คุณผู้ชมเท่านั้นที่จะต้องไปตัดสินใจด้วยตัวเอง Soulmate เธอ ฉัน รักเขา เป็นเรื่องราวมิตรภาพและความรักที่เติบโตมาด้วยกันของหญิงสาวที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเธอต่างใช้เวลาในวัยเรียนร่วมกัน แม้ว่าอุปนิสัยของแต่ละคนจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชีวิตของพวกเธอผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมายตลอดระยะเวลา 14 ปีบนแบบทดสอบของชีวิต ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งคราบน้ำตา ต่างฝ่ายต่างแบ่งปันประสบการณ์ต่าง ๆ นั้นร่วมกันอย่างน่าเหลือเชื่อ ก็อย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นแล้วว่า หนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงและรีเมคมาจากหนังดังจากจีน Soul Mate (Qi Yue and An Sheng) ที่เคยออกฉายในปี 2016 และถือว่าเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในแง่คำวิจารณ์และรายได้ไม่น้อย โดยต้นฉบับของหนังเรื่องนี้ยังถูกหยิบนำมาสร้างเป็นฉบับทีวีซีรีส์ด้วย ก่อนจะกลายมาเป็นหนังเกาหลีในเวอร์ชั่นปีอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ Incantation | มนตรา 2022

รีวิว Incantation | มนตรา 2022 Incantation (2022) เป็นหนังกึ่งสารคดีจากประเทศไต้หวันที่เนื้อหาสุดหลอน สั่นประสาท และสยองขวัญสุดๆ เล่าเรื่องราวของครอบครัว Li ที่ได้เดินทางกลับมาใช้ชีวิตในประเทศบ้านเกิด ในวันหนึ่งลูกสาวคนเล็กของเธอก็ป่วยเป็นโรคประหลาดที่รักษาไม่หาย เริ่มมองเห็นนั้นเห็นนี้ ลูกสาวของเธอเรียกมันว่าคนร้าย พาไปรักษาที่โรงพยาบาลก็ไม่มีอะไรผิดปกติทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต ลูกสาวของเธอมีร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์ แต่คนทรงแถวบ้านบอกว่าลูกสาวเธอถูกผีเข้าสิง และสั่งให้อดน้ำอดอาหารเป็นเวลาเจ็ดวันเพื่อเป็นการไล่ผี ส่วนพ่อก็ออกเดินทางไปหาคนที่พอจะช่วยได้ก่อนจะถูกผีเข้าไปอีกคน ความรู้สึกที่ได้ดูบอกตรงๆว่าหลอนและน่ากลัวมาก น่ากลัวมากจนน่าขนลุก ทั้งฉากตั้งกล้องถ่ายหน้าตัวเอง live สดที่พยายามหาทางช่วยเหลือลูกสาวที่แสนสิ้นหวังและหดหู่ ในขณะที่ตัวเองก็พยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากผีที่ตามมาสิงไปด้วย ซึ่งเอาจริงๆมันน่าแปลกมากที่ทุกคนในครอบครัวนี้ไม่มีปัญหาสุขภาพทางจิตและร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง และทำให้ผู้เขียนสงสัยว่านี้คืออุปทานหมู่หรือเปล่า ซึ่งหนังกึ่งสารคดีเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของ Li lua nan ครอบครัวที่พยายามไล่ผีให้ออกจากร่างลูกสาวคนเล็กจนถูกสิงทั้งครอบครัว ว่ากันว่าชาวบ้านแถวๆนั้นรู้หมด เพราะครอบครัวนี้ชอบส่งเสียงร้องแปลกๆตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่เพราะเป็นการส่งเสียงแค่ในบ้านของตัวเองไม่ได้ไประรานใคร ชาวบ้านเลยไม่ค่อยอยากยุ่งกับครอบครัวนี้ อีกทั้งครอบครัวนี้ยังกินอุจจาระและปัสสาวะเป็นอาหารอีกด้วย ซึ่งเนื้อหาในหนังเลือกที่จะตัดฉากนี้ไป แต่เน้นไปที่ฉากการทำพิธีกรรม ความเชื่อ การทำของ การเล่นคุณไสย และฉากที่สามีภรรยาสองคนวิ่งหนีจากผีก่อนที่จะถูกผีเข้าแทน ซึ่งทุกอย่างที่หนังใส่มา ทั้งการถ่ายทำแบบ footage ที่มีคนถือกล้องวิ่งตามไปกับตัวละครในฐานะของบุคคลที่สามอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ Bullet Train | ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า 2022

รีวิว Bullet Train | ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า 2022 รถไฟหัวกระสุนขบวนนี้..ไม่น่าจะอยากมีใครย่างก้าวขึ้นไปโดยสารด้วยแน่ ๆ เพราะคือขบวนที่อัดแน่นไปด้วยเหล่านักฆ่ามือฉมังจากทั่วโลก ที่โคจรมาขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกันใน “Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า” หนังแอคชั่นสุดระห่ำที่เต็มไปด้วยกองทัพดาราฮอลลิวูดอัดแน่คับจอ ที่เป็นการหยิบเอานิยายทริลเลอร์ชื่อดังมาดัดแปลงใหม่และร้อยเรียงออกมาเป็นหนังบู๊ปนขำเรื่องนี้ Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า เล่าเรื่องราวของ เลดี้บั๊ก นักฆ่าพาซวย ที่โชคชะตามักจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เสมอ กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขาต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกันแต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้บนรถไฟที่เร็วที่สุด…เขาจะลงจากขบวนรถไฟได้อย่างไร ปลายทางสุดโกลาหล เป็นจุดเริ่มต้นความระห่ำ นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เดวิด ลิตช์” ผู้ที่เคยสร้างตำนานให้กับ Deadpool 2 และบู๊สุดเฉียบใน Atomic Blonde โดยในครั้งนี้เขายังกลับมาหยิบจับผลงานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ทุนหนาอีกครั้ง ด้วยการดัดแปลงเรื่องราวจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ “โคทาโร่ อิซะกะ” ถือนับว่าผลงานชิ้นนี้เป็นงานเขียนระดับมาสเตอร์พีชในอาชีพของเขาเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า เดวิด ลิตช์ ยังคงรู้ทิศทางและแนวทางในการดีไซต์หนังแอคชั่นระห่ำที่มีพื้นที่จำกัดอยู่เพียงแค่รถไฟขบวนเดียวได้อย่างมีพรสวรรค์ ผู้ชมสามารถไว้วางใจกับองค์ประกอบของฉากบู๊ต่าง ๆ ที่ถือว่าออกแบบมาได้อย่างสมน้ำสมเนื้ออ่านต่อ